เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 7. ปารายนานุคีติคาถานิทเทส
คำว่า ทรงเป็นผู้กำจัดความมืด ในคำว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้กำจัด
ความมืด มีสมันตจักขุ อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคทรงกำจัด คือ ทำให้
เบาบาง ลด บรรเทา ทำให้หมดสิ้นไป ให้ถึงความไม่มีอีกซึ่งความมืดเพราะราคะ
ความมืดเพราะโทสะ ความมืดเพราะโมหะ ความมืดเพราะมานะ ความมืดเพราะ
ทิฏฐิ ความมืดเพราะกิเลส ความมืดเพราะทุจริต ซึ่งทำให้เป็นคนตาบอด ทำให้
ไม่มีจักษุ ทำให้ไม่มีญาณอันดับปัญญา เป็นไปในฝ่ายแห่งความลำบาก ไม่เป็นไป
เพื่อนิพพาน รวมความว่า ทรงเป็นผู้กำจัดความมืด
คำว่า พระพุทธเจ้า ได้แก่ พระผู้มีพระภาค ฯลฯ คำว่า พระพุทธเจ้า นี้
เป็นสัจฉิกาบัญญัติ1
คำว่า มีสมันตจักขุ อธิบายว่า พระสัพพัญญุตญาณ ตรัสเรียกว่า
สมันตจักขุ ฯลฯ พระตถาคต ชื่อว่ามีสมันตจักขุ ด้วยจักษุนั้น รวมความว่า
พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้กำจัดความมืด มีสมันตจักขุ
คำว่า ทรงถึงที่สุดโลก ทรงล่วงภพได้ทั้งหมด อธิบายว่า
คำว่า โลก อธิบายว่า โลก 1 คือ ภวโลก2
โลก 2 คือ ภวโลกที่เป็นสมบัติและภวโลกที่เป็นวิบัติ
โลก 3 คือ เวทนา3 3
โลก 4 คืออาหาร4 4

เชิงอรรถ :
1 ดูรายละเอียดข้อ 2/46-48
2 ภวโลก ได้แก่โลกคือภพ วิบากอันเป็นไปในภูมิทั้ง 3 (ขุ.จู.อ. 104/85)
3 เวทนา 3 ได้แก่สุขเวทนา ทุกขเวทนา และอทุกขมสุขเวทนา (ขุ.จู.อ. 104/85)
4 อาหาร 4 ได้แก่ (1) กพฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าว (2) ผัสสาหาร อาหารคือผัสสะ (3) มโนสัญ-
เจตนาหาร อาหารคือมโนสัญเจตนา (4) วิญญาณาหาร อาหารคือวิญญาณ หมายถึงปฏิสนธิวิญญาณ 19
ประเภท (ขุ.จู.อ. 104/85)
ผัสสะ เรียกว่าอาหารเพราะนำมาซึ่งเวทนา (ขุ.จู.อ. 104/85)
มโนสัญญเจตนา เรียกว่าอาหารเพราะนำมาซึ่งภพ 3 (ขุ.จู.อ. 104/85)
วิญญาณ เรียกว่าอาหารเพราะนำมาซึ่งนามรูป ในขณะปฏิสนธิ (ขุ.จู.อ. 104/86)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :355 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส [ปารายนวรรค] 7. ปารายนานุคีติคาถานิทเทส
โลก 5 คืออุปาทานขันธ์ 5
โลก 6 คือ อายตนะภายใน 6
โลก 7 คือวิญญาณัฏฐิติ1 7
โลก 8 คือโลกธรรม2 8
โลก 9 คือสัตตาวาส3 9
โลก 10 คืออายตนะ4 10
โลก 11 คือกามภพ5 11
โลก 12 คืออายตนะ6 12
โลก 18 คือธาตุ7 18
คำว่า ทรงถึงที่สุดโลก อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคทรงถึงที่สุด ทรงบรรลุที่สุด
ทรงถึงส่วนสุด ทรงบรรลุส่วนสุด ฯลฯ ทรงถึงที่ดับ ทรงบรรลุที่ดับแห่งโลก
พระองค์ทรงอยู่ใน (อริยวาสธรรม) แล้ว ทรงประพฤติจรณธรรมแล้ว ฯลฯ พระองค์
ไม่มีการเวียนเกิด เวียนตาย และภพใหม่ก็ไม่มีอีก รวมความว่า ทรงถึงที่สุดโลก
คำว่า ทรงล่วงภพได้ทั้งหมด อธิบายว่า
คำว่า ภพ ได้แก่ ภพ 2 คือ (1) กรรมภพ (2) ภพใหม่อันมีในปฏิสนธิ

เชิงอรรถ :
1 ดูรายละเอียดข้อ 83/289-290
2 โลกธรรม 8 ได้แก่ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ (ขุ.จู.อ. 104/87)
3 สัตตาวาส 9 คือที่อยู่ของสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่วิญญาณัฏฐิติ 7 อสัญญสัตตภูมิ 1 และเนวสัญญานา-
สัญญายตนภูมิ 1 รวมเป็น 9 (ขุ.จู.อ. 104/87)
4 อายตนะ 10 ได้แก่ตา รูป หู เสียง จมูก กลิ่น ลิ้น รส กาย โผฏฐัพพะ (ขุ.จู.อ. 104/87)
5 กามภพ 11 ได้แก่อบายภูมิ 4 มนุษยโลก 1 สวรรค์ 6 ชั้น (ขุ.ม.อ. 1/16)
6 อายตนะ 12 ได้แก่อายตนะ 10 รวมใจและธรรมารมณ์จึงเป็น 12 (ขุ.จู.อ. 104/87)
7 ธาตุ 18 คือการกระจายธาตุแต่ละอย่างให้เป็น 3 เช่น จักขุธาตุ รูปธาตุ จักขุวิญญาณธาตุ จนถึงมโนธาตุ
ธัมมธาตุ มโนวิญญาณธาตุ (ขุ.จู.อ. 104/87)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 30 หน้า :356 }